Latest News

COPs ไวรัสคอมพิวเตอร์

Posted by KM IT วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553, under | 0 ความคิดเห็น
COPs ไวรัสคอมพิวเตอร์

เป้าหมาย/Desired state ป้องกันไวรัสรบกวนการทำงานของคอมพิวเตอร์
ประเด็นสำคัญ (context) วิธีการป้องกันและจัดการไวรัสคอมพิวเตอร์


ประเด็นหลัก/หลักการสำคัญ


เรื่องเล่า/ตัวอย่างประสบการณ์
แหล่งข้อมูล/บุคคล



อัพเดทโปรแกรมป้องกันไวรัสอยู่เสมอ
บางครั้งคนส่วนใหญ่มีโปรแกรมป้องกันไวรัสใน คอมพิวเตอร์ของตนเอง แต่ไม่ได้ทำการอัพเดท เข้าใจผิดว่าใช้งานได้ ดังนั้นเราควรทำการอัพเดทโปรแกรมอยู่เสมอ

นายเอกพันธ์ หมื่นแกว้น


สแกนไวรัสเป็นประจำ
บางครั้งเราอาจจะไม่ค่อยได้ สแกนไวรัสบ่อยครั้งมักจนทำให้คอมพิวเตอร์ ของเราได้รับไวรัสมาจาก Handy Drive อย่างมาก และสะสมรวมกันมาเรื่อย จากน้อยกลายเป็นมาก จนทำให้คอมพิวเตอร์เกิดมีปัญหาหนัก อาจทำให้คอมพิวเตอร์เสียได้
นายอรรถพล เทียนงามสัจ

ทำความรู้จักกับไวรัสใหม่ ๆ และวิธีป้องกันไวรัสและแก้ไข
ในบางครั้งเราอาจจะมีทั้งแอนตี้ไวรัสดี ๆ อัพเดทอยู่บ่อย ๆ อยู่ล้วแต่ไวรัสใหม่ ๆ อาจจะเลี่ยงจากการตรวจจับงานสแกนไวรัสได้ ดังนั้นเราจึงควรรู้จักกับวิธีป้องกันวิธีการหลีกเลี่ยงไวรัสอย่าง เช่น ไวรัสบางตัวอาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา รีสตาร์ทเองได้แต่สแกนไวรัสหาไม่เจอ

นายณัฐวุฒิ กิจผดุงเกียรติ

ติดตั้งใช้งานโปรแกรม Windows Fire wall
ในกรณีผู้ใช้ XP หรือ Vista โดยโปรแกรม Fire wall จะทำหน้าที่ป้องกัน คอมพิวเตอร์จากการบุกรุกไวรัสมัลแวร์ และเฮกเกอร์

นายพงศ์พัฒน์ พิสิฐนฤดม

การ Format drives เพื่อลบ OS และ Program ในกรณีที่เครื่องโดนไวรัสหนัก ๆ
ในกรณีที่เครื่องโดนไวรัสหนัก ๆ ไม่สามารถใช้งานเครื่องได้ตามปกติ จึงต้องทำการลง Windows ใหม่ จะทำกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด แต่จะเสียเวลาในการลง Windows ใหม่ ๆProgram ใหม่ ทำให้ต้องใช้โปรแกรมหลายตัว ๆ ทำงานยุ่งมากแน่ ๆ วิธีง่าย ๆ เข้าไปใน My computer คลิกขวา ที่ drive c เลือก Format เครื่องมันจะถามว่าคุณแน่ใจแล้วนะว่าจะ Format แล้วกด ok เครื่องมันจะ Format Os Program ต่าง ๆ หมด

นายบุรินทร์ ขวัญมณี


ไม่เข้าเว็บไซต์ที่มีการแอบแฝงโค๊ดประสงค์ร้าย
บางครั้งการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจมีการแอบแฝง โค๊ดประสงค์ร้ายอยู่ ดังนั้นเราจะต้องใช้โปรแกรม หรือ ฟีเจอร์บางอย่างช่วยในการแยกแยะตัวเช่น โปรแกรม Site Advisor ของ Mcafee

นายประวิทย์ คงสุวรรณ์

ใช้งานโปรแกรม Auto run Killer (cpe) (โปรแกรมที่จะสแกนทันทีที่เสียบ Handy Drive)
ในการที่เราเสียบ Handy Drive ไป ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ virus เข้าเครื่อง ป้องกันไวรัสบางตัว เช่น Autorun ซึ่งจะเข้า มาในเครื่องทันที ที่เสียบ Handy Drive โดยที่ ตัวสแกน ไวรัส ในเครื่อง สามารถ สแกนได้ก็ต่อเมื่อเรากด สแกนไปแลวจึงไม่สามารถทำให้ ไวรัสบางตัวโดนลบไปได้

นายมนัสวี อยู่ยอด

ไม่ใช้งานโปรแกรม ที่มีรายละเอียด และเชื่อถือน้อย เช่น โปรแกรม สร้างไวรัส โปรแกรม เพื่มความเร็ว โปรแกรม โทรฟรี
การที่เราลงโปรแกรมหลากหลาย มั่วซั่วไปหมดไม่ดูไฟล์ข้างใน และรายละเอียดต่าง ๆ อาจจะนำพาไวรัส ร้าย ๆ บางตัวเข้ามา เพราะ ไวรัสบางชนิดจะซ่อนอยู่ในตัวโปรแกรมแปลก ๆ ที่ถูก พัฒนาขึ้นไม่ว่าจะเป็น โทรจัน ต่าง ๆ หรืออาจจะขั้นไวรัสร้ายแรงบางตัว เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะลงโปรแกรมอะไร ควรจะสแกนโปรแกรมตัวนั้นก่อน หรือ ดูรายละเอียดความน่าเชื่อถือ แล้วค่อยจัดการ Setup โปรแกรม นั้น ๆ

นายบุญญฤทธิ์ ทองฤทธิ์

ในบางครั้งเรานั้นต้องเก็บสื่อบนอินเตอร์เน็ต

เช่น รูปเล่มรายงาน รูป หนัง เพลง คลิปต่างๆ ซึ่งมาจากการ ดาวน์โหลด
บนเว็ปไซด์ต่างๆ เเล้วเเน่ใจเเล้วหรือว่าจะป้องกันไวรัสที่มาจากการดาวน์โหลดนี้ได้ จึงควรหลีกเลี่ยง ถ้าหากจำเป็นต้องดาวน์โหลดสิ่งนั้นจริงๆ
ควรต้องมีวิธีป้องกัน เช่น สเเกนไวรัส โดยต้องอัพเดทอยู่บ่อยๆ เพื่อที่จะไม่ให้ล่าหลังเเล้วเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการค้นหาไวรัสที่มากับสื่อได้ดีมากยิ่งขึ้น
การติดตั้ง Fire Well เพื่อป้องกันไวรัสที่เเอบเเฝงมาจากอินเตอร์เน็ต โดยที่เรานั้นไม่รู้ตัว เพื่อป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา

นายอลงกรณ์ พักดีณรงค์



คำแนะนำก่อนเลือกใช้ Windows 7 32-bit หรือ 64-bit

ทำไม่ต้อง Windows 32-bit หรือ Windows 64-bit มันดีอย่างไร และทำไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง สาเหตุหลักๆ ของการพัฒนา Windows 32-bit หรือ Windows 64-bit นั้น มาจากข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการ Windows รวมทั้ง hardware ด้วย เหตุผลก็คือ ข้อจำกัดในเรื่องของการรองรับหน่วยความจำ หรือ Memory นั่นเอง

ความสามารถในการรองรับหน่วยความจำของ Windows•Windows 32-bit รองรับ Memory ได้สูงสุด 4GB
•Windows 64-bit รองรับ Memory ได้ไม่จำกัด
ทำไมต้อง Windows 7 64-bit
นอกเหนือจากการที่สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้มากๆ แล้ว การใช้งาน Windows 7 64-bit ยังทำงานได้เร็วกว่า Windows 32-bit อีกด้วย? แล้วอย่างนี้ จะเลือก Windows 7 64-bit เลยหรือเปล่า..? ช้าก่อน ให้อ่านหัวข้อถัดไปก่อน..
ข้อจำกัด?ก่อนเลือก Windows 7 64-bit•คอมพิวเตอร์ของเรา รองรับการทำงาน Windows 64-bit หรือไม่?
•โปรแกรมที่เราใช้งานอยู่ สามารถรองรับการทำงาน 64-bit ได้หรือไม่ (ต้องตรววจสอบ)
•โปรแกรมที่ทำงานประเภท 16-bit จะไม่สามารถใช้งานได้กับ Windows 64-bit
•โปรแกรมที่ทำงานประเภท 32-bit ยังคงทำได้ได้ดีกับ Windows 64-bit (ส่วนใหญ่โปรแกรมที่เราใช้เป็นประเภท 32-bit)
•ฮาร์ดแวร์ ต้องระวังเรื่องของ driver ว่ารองรับการทำงาน Windows 64-bit หรือไม่
*ดังนั้น ถ้าจะให้ดี ต้องมีการเตรียมการให้ละเอียดก่อนว่า ต้องการใช้งาน Windows 64-bit เพราะอะไร และมีความพร้อมในเรืองต่างๆ แล้วหรือยัง ไม่ว่าจะเป็น Software / Hardware อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย

การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ เบื้องต้น

เราควรทำอะไรบ้างกับคอมพิวเตอร์ของเรา
มีคนอีกจำนวนมากๆ ที่ไม่เคยดูแล รักษาเครื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น หรือไม่ทราบว่าจะดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราให้อยู่กับเรานานๆ ได้อย่างไร อันนี้ไม่ได้โทษใคร แต่เราอยากจะแนะนำวิธีการดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา แบบพื้นฐาน อย่างน้อย จะได้ทราบว่า คอมพิวเตอร์ของเราอยู่ในสภาพแบบไหน พร้อมใช้งานหรือไม่
เริ่มต้นการดูแลรักษา ตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์
1. สภาพภายนอก แนะนำให้ทำความสะอาดสักนิด อย่างน้อยก็เพื่ออนามัย และสุขภาพของคุณเอง คุณทราบหรือไม่ แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ด มันสกปรกขนาดไหน (ลองคิดเล่นๆ ดูว่า วันๆ คุณหยิบจับอาหาร และใช้งานแป้นพิมพ์ หรือไม่ และฝุ่นละอองข้างๆ มีมากน้อยเพียงใด) ควรทำสะอาดบ้าง อย่างน้อย สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
2. สายไฟ สายสัญญาณต่างๆ หลวม หรือหักชำรุดหรือไม่ แนะเสียบปลั๊กแล้ว ไฟติดๆ ดับๆ บ่อยๆ แนะนำให้รีบแก้ไข ถ้าแก้ไขไม่ได้ ให้รีบซื้อเปลี่ยนใหม่ดีกว่า ไฟติดๆ ดับๆ บ่อยๆ มีบ่อยกับคอมพิวเตอร์อย่างมาก วันดี คืนดี อาจเปิดไม่ติดเลย
3. พื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ หลังจากเปิด Windows เข้ามาแล้ว ลองเช็คพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ เสียก่อนว่า เหลือเท่าไหร่ ถ้าเหลือน้อยกว่า 500 MB ก็ควรพิจารณาเพื่มพื้นที่ว่างได้แล้ว โดยเฉพาะกับ Drive C: (ซึ่งเป็นที่เก็บโปรแกรม) แนะนำให้สำรองข้อมูล โดยเฉพาะไฟล์ต่างๆ ทีอยู่ใน My Documents ออกไปบ้าง หรืออาจสำรองลง Drive อื่นๆ (ถ้ามี)
4. ตรวจสอบสภาพฮาร์ดดิสก์ นอกเหนือเรื่องพื้นที่ว่างแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ว่ามีจุดไหนเสียหรือไม่ วิธีการไม่จำเป็นต้องแกะเครื่องคอมฯ มาตรวจสอบ เพียงแค่ใช้โปรแกรมช่วยตรวจสอบ ประเภท Disk Defragment ก็สามารถเช็คได้แล้วว่า ฮาร์ดดิสก์ของเรามี "Bad Sector" หรือไม่ (Bad Sector เป็นจุดเสียของฮาร์ดดิสก์) ถ้ามี แนะนำให้รีบสำรองข้อมูล และเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ไปเลยจะปลอดภัยกว่า
5. ตรวจสอบไวรัสบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะมีโปรแกรม Antivirus แล้วก็ตาม เราก็ยังคงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบไวรัสอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง และที่สำคัญก็ควรอัปเดทโปรแกรมแบบออนไลน์ให้ทันสมัยอยู่เสมอด้วยเช่นกัน

บทความโดย นายอรรถพล เทียนงามสัจ 51116940046